วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หน่อย ขอเลี้ยงลูกเต็มที่ ไม่พร้อมคืนวงการ

เป็นศรีภรรยาที่น่ารักเสมอสำหรับ หน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์ เพราะตอนนี้เดินหน้าเลี้ยงลูกเต็มที่ โดยจะให้นมกับน้องจุน ลูกคนเล็กเอง แถมแอบเมาท์ น้องคุน มีหวงคุณพ่อ เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ส่วนเรื่องติดต่อถ่ายภาพครอบครัวนั้นมีบ้าง แต่เคนหวงลูก ด้านการแสดง ยอมรับคิดถึงละคร แต่ใจเป็นห่วงลูกมีมากกว่า

หน่อยกล่าวว่า "ก็คิดถึง ติดตามดูละครที่คนอื่นเล่นตลอด" ตั้งแต่ แรมพิศวาส แล้วมีคนติดต่อมาอีกมั้ย "ก็มีนะ แต่เคนยังไม่ปล่อย ลูกยังเล็กด้วย" ต้องเลี้ยงน้องเต็มที่เลย "ใช่ เพราะหน่อยให้นมเอง ก็อยากจะอยู่กับเขา น้องคุนซึ่งตอนนี้อายุ 2 ขวบ กำลังทำตามว่าพ่อแม่ทำยังไง เขาซนมาก แล้วพูดเก่งมาก" น้องคุนเห็นน้องจุนแล้วมีท่าทียังไงบ้าง "เขาก็อยากเล่นกับน้อง เขาก็เข้ามาเล่น แต่เขาจะเล่นแบบไม่เป็ฯ ไม่รู้จังหวะ จะเล่นแรง บางทีก็กระโดดทับลงไปทั้งตัว เราก็ โอ๊ย ตายแล้ว เบาๆคุน แต่เขาอยากเล่น ก็มาหอมน้อง" แล้วมีท่าทีงอนที่คุณแม่ดูแลน้องจุนมั้ย "ก็เคยเห็นเหมือนกันบางวันที่เราต้องอยู่กับน้องจุนตลอด เพราะต้องให้นม เขาก็เดินมามอง แล้วก็เดินไปเล่นอีกห้องนึงดีกว่า พอเราให้นมน้องจุนเสร็จก็จะไปหาน้องคุนเลย น้องจุนก็จะปล่อยให้ยายอุ้ม"

จะมีน้องคนที่สามต่อมั้ย "(หัวเราะ) ถามอะไรอย่างนั้น ยัง พอแล้ว" พาน้องไปเที่ยวที่กองถ่ายคุณพ่อบ้างหรือเปล่า "มีนะ เขาไปกอง "รหัสทรชน" เขาก็ไปถือวอของผู้กำกับแล้วก็สั่งคัตอะไรแบบนี้" จะมีถ่ายภาพแฟชั่นขี้นปกทั้งครอบครัวมั้ง "คงยังมั้ง เคนหวงลูก ก็เคยมีคนติดต่อมา ตอนนั้นน้องก็ยังเด็ก ยังสั่งอะไรไม่ได้ พอตอนนี้สั่งได้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำตามคำสั่งหรือเปล่า กำลังต่อต้านนิดนึง" เวลาน้องคุนเห็นพ่อในทีวี เขาว่ายังไงบ้าง "น้องคุนไม่ค่อยดูทีวีนะ แต่เขาเคยดู "วิวาห์ว้าวุ่น" ที่เล่นกับชมพู่-อารยา แล้วชมพู่ซบพ่อ เขาก็จะเดินไปที่ทีวีแล้วบอก ถอยไป๊ ถอยไป ตลกดี เราก็นั่งขำๆ แต่เรื่อง 365 วันแห่งรัก เขายังไม่ได้ดู" เห็นแววพระเอกของน้องรึยัง "ยังไม่เห็นเลย ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนเรื่องเห็นแม่ในทีวีนั้น เขาก็เคยเห็นเราในโฆษณา เขาจะบอก "แม่มาแล้ว" อีกนานแค่ไหน ถึงจะกลับวงการอีกครั้ง "ตอบไม่ได้จริงๆ ก็อยากเล่นละคร แต่ใจห่วงลูกมันมีมากกว่า ก็เอาเวลาให้ลูกก่อน เด็กวัย 1-3 ขวบ เป็นวัยที่กำลังซึมซับ น้องจุนเพิ่งจะ 3 เดือน เอง อีกนาน ซึ่งก็มีติดต่อมา แต่เราก็ปฏิเสธไปแล้ว"

ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Driving Tips ชมความงามแบบ Unseen ใต้หมู่เกาะทะเลกระบี่

เมื่อนึกถึงจังหวัดกระบี่ หลายคนจะนึกถึงธรรมชาติอันงดงามในแบบ Unseen แต่ในความเป็นจริงกระบี่ไม่ได้มีธรรมชาติแบบ Unseen แค่บนบกเท่านั้น ใต้ทะเลลึกในบรรดาหมู่เกาะต่างๆของกระบี่ยังมีความงดงามตระการน่าลงไปชื่นชมไม่แพ้ชายหาดบนเกาะกันเลยทีเดียว

สำหรับแหล่งดำน้ำชื่ดังของกระบี่นั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ได้แก่ บริเวณหมู่เกาะพีพี และหมู่เกาะลันตา หมู่เกาะพีพีส่วนใหญ่เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงทางด้านหาดทรายขาวสะอาดให้เที่ยวเล่นน้ำถ่ายภาพแต่ในขณะเดียวกันด้วยความใสสะอาดของน้ำทะเลสีมรกตก็ทำให้กิจกรรมดำน้ำเป็นที่นิยมไม่น้อย โดยบริเวณหมู่เกาะพีพีมีจุดดำน้ำอยู่ที่อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ เกาะยูง และหินกลาง หากชื่นชอบการดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวมาหยา และหินกลาง มีปะการังแข็ง และดอกไม้ทะเลให้ชม สำหรับนักดำน้ำแบบ Scube ก็ต้องไม่พลาดการไปชมที่อ่าวโละซามะ และเกาะยูง ซึ่งมีระดับความลึกอยู่ที่ 10-20 เมตร เบื้องลักษณะเป็นชะง่อนหินพบปะการังอ่อนขี้นมากมาย และบริเวณอ่าวโละซามะยังเหมาะสำหรับดำน้ำแบบ Night Dive ด้วย

สำหรับจุดดำน้ำบริเวณหมู่เกาะลันตา ส่วนใหญ่นิยมไปหมู่เกาะห้าเกาะรอก หินแดง และหินม่วง หากชื่นชอบแหล่งดำน้ำลึกที่มีถ้ำสลับซับซ้อนให้ชมแบบตื่นเต้นหน่อยก็ต้องไปที่หมู่เกาะห้า ส่วนนักดำน้ำที่ชื่นชอบแนวปะการังสีสันสดใสก็ต้องไม่พลาดไดร์ฟที่บริเวณหินแดง หินม่วง สำหรับ Night Dive เกาะรอกคลื่นลมสงบนับเป็นจุดที่ดีที่สุด

หากไปชื่นชมทะเลแหวกแบบ Unseen กันมาแล้ว ก็ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชื่นชมความงามแบบ Unseen ของใต้หมู่เกาะทะเลกระบี่กัน

ที่มา นิตยสาร Places & Prices

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ท่องเที่ยวแดนเขมร

มนต์ขลังของปราสาทโบราณอย่างนครวัด-นครธมยังคงมีแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆเข้าไปชื่นชมและถ่ายภาพได้อย่างต่อเนื่อง มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่สถานการณ์บ้านเมืองจะเอื้ออำนวยยกเว้นนักเสี่ยงโชคชาวไทยที่ไม่ค่อยครั่นคร้ามกับกระแสความขัดแย้งสักเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าสถานการ์จะเป็นอย่างไร เงินไทยที่ไหลเวียนในบ่อนกาสิโนตามตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชาก็ยังคงเฟื่องฟูแบบไม่มีฟุบ

นครวัด-นครธม ปราสาทตาพรหม ลานพระเจ้าขี้เรื้อน ลานช้าง..โบราณสถานยิ่งใหญ่ในยุคพระเจ้าสุริยวรมัน พระเจ้าชัยวรมัน ทำหน้าที่ได้ยิ่งใหญ่และสร้างความประทับใจให้คนมาเยี่ยมเยือนได้ไม่ต่างจากเดิมยกเว้นสถานที่บางแห่ง เช่น ประสาทนครวัด เพราะหากคุณฝันอยากไต่บันไดหินแหว่งวิ่นที่ทำมุมเกือบๆจะเกือบจะเก้าสิบองศาเพื่อขี้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหอสูงที่เปรียบเหมือนศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อในสมัยโบราณของปราสาทนครวัดอีกครั้ง คุณจะฝันสลายเนื่องจากก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวตกลงมาบาดเจ็บ (บางข่าวว่าถึงกับเสียชีวิต) เส้นทางนี้จึงถูกปิดนักแต่นั้นมา แม้แต่ภาพเศียรพระพุทธรูปที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยรากไม้สะปงบริเวณ ปราะสาทตาพรหมที่นิตยสารต่างประเทศนำไปตีพิมพ์จนโด่งดัง บัดนี้ก็ไม่มีให้ชื่นชมอีกแล้ว

แต่ที่อยู่ยั้งยืนยงเป็นภาพที่แยกไม่ออกกับสถานที่ท่องเที่ยวในเขมรคือ เด็กๆหน้าตามอมแมมที่วิ่งล้อมหลังนักท่องเที่ยวพร้อมกับของที่ระลึกนานาชนิด ส่วนใครที่ไม่มีของมาขายก็ขอเงินกันดื้อๆ

วิวัฒนาการใหม่อีกอย่างหนึ่งของเด็กเขมรในการตาม (บริการ) นักท่องเที่ยวที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร คือการเสี่ยงมฤตยูด้วยการกระโดดจากเรือเล็กเข้าสู่เรือใหญ่ พร้อมตะกร้าใส่กระป๋องน้ำอัดลม เพื่อขายให้แก่นักท่องเที่ยวขณะกำลังนั่งเรือชมธรรมชาติอย่างเพลิดเพลินใน โตนเลสาบ ในราคา 2 ดอลลาร์ขาดตัว

ที่มา นิตยสาร Secret

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ถ่ายภาพดอยตุง สถานที่ถ่ายภาพที่งดงาม

ขอแนะนำสถานที่ถ่ายภาพที่งดงามอีกที่หนึ่งคือ ดอยตุง ดอยตุงในอดีตทำไร่เลื่อนลอยกันจนภูเขาราบเป็นหน้ากลอง เมือสมเด็จย่าท่านทรงนำโครงการพัฒนาดอยตุง ส่งผลพลิกจากดอยหัวโล้น เป็นภูเขาน่าเที่ยว โดยเฉพาะสวนไม้ดอกเมืองหนาวที่ออกดอกตลอดปี นอกจากนั้นยังมีเส้นทางเชื่อมถึงพระธาตุดอยตุง สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ฯลฯ

ด้วยความสูง 1,509 เมตร จากระดับน้ำทะเล อากาศบนดอยจึงเย็นสบาย และเป็นดอยที่มีถนนตัดขึ้นดอยที่ดีที่สุดก็ว่าได้ จุดแรกที่ต้องไปให้ได้คือพระตำหนัก ดอยตุง ซึ่งสมเด็จย่าเคยประทับอยู่ และไปเดินเล่นชมพรรณไม้ที่สวนแม่ฟ้าหลวง ว่ากันว่าในหนึ่งปีที่นี่มีไม้ดอกไม่ซ้ำกันเลย ปลูกตามฤดูกาล อย่าลืมแวะดื่มกาแฟดอยตุงที่นี่ด้วย จากนั้นเดินทางต่อไปเที่ยวพระธาตุดอยตุง นอกจากจะได้ชมพระธาตุสีทองอันเก่าแก่ อันเป็นที่มาของชื่อดอยตุง (ตุงคือธง) แล้ว วิวข้างพระธาตุยังสวยงาม จากนั้นต้องเดินทางต่อไปยังสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ห่างจากพระตำหนักดอยตุงไปประมาณ 7 กิโลเมตร ที่นี่นอกจากจะมีพรรณไม้เมืองหนาวมากมายแล้ว จุดส่องสามแคว้นนั้น สามารถชมวิวได้ถึงสามแคว้นสมชื่อ เห็นตั้งแต่ดอยแม่สลองไปถึงพม่า หันกลับมาอีกด้านเห็นผืนป่าประเทศลาวอีกด้วย

ส่วนใหญ่จะเดินทางขี้นไปเที่ยวดอยตุง แบบเช้าขี้นเย็นลง ใช้เวลาหนึ่งวันกำลังดี แต่หากต้องการสัมผัสบรรยากาศทั้งกลางวันและกลางคืน มีที่พักคือบ้านพักมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงให้บริการ

ที่มา นิตยสาร Trips สุดยอดจุดชมวิว