ดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่เป็น อีกหนึ่งสถานที่ถ่ายภาพแนะนำ ความหมายของดอยผ้าห่มปกนั้น มาจากคำว่าฟ้าห่มปก หมายถึงว่าดอยนี้สูงเหลือเกิน เป็นลำดับ 2 รองจากอินทนนท์ 2,285 เมตรจากระดับน้ำทะเล นอกจากจะมีดอยที่สูงเสียดฟ้าแล้ว บ่อน้ำพุร้อนที่นี่ยังโดดเด่นไม่แพ้กัน สมัยก่อนน้ำพุร้อนดังกว่าดอย เพราะเป็นบ่อยิ่งใหญ่ไปง่าย รถถึง
เที่ยวอุทยานแห่งนี้ ในวันนี้จึงสัมผัสจุดเด่นได้ทั้งสอง เริ่มแรกไปบ่อน้ำพุร้อนแม่ฝาง มีควันขาวโพลนตลอดวันคืนมาไม่รู้กี่ปีแล้ว อุณหภูมิ 40-88 องศาเซลเซียส มีอยู่ด้วยกันหลายบ่อ ควันขาวๆพุ่งสูง 40-50 เมตรทีเดียว มีอ่างอาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพให้บริการด้วย จุดเด่นที่สองคือยอดดอยผ้าห่มปก ต้องนั่งรถแรงดีไปเริ่มต้นเดินที่ม่อนกิ่วลม ไปถึงแล้วกางเต็นท์ บริเวณนี้ชมวิวได้สวยงามไม่น้อย ส่วนยอดดอยต้องเดินเท้าขี้นไป 3 กิโลเมตร ผ่านป่าโบราณ อันทึบจนมองไม่เห็นท้องฟ้า ครั้งพ้นขี้นความสูงสู่ยอด จะเห็นวิวสวย มองเห็นถนนบนสันเขาขนานไปกับแนวชายแดนไทย พม่า เรือนยอดผืนป่าเบื้องล่าง ในฤดูหนาวยังได้ชมทะเลหมอกที่มาพร้อมอาทิตย์ขี้นด้วย ถ้าอากาศดีจะเห็นยอดดอยอ่างขางทะลุเหนือเมฆให้เห็นด้วย
ลงจากดอยแล้ว ยังมีน้ำตกสวยๆให้เที่ยว และต่อด้วยถ้ำห้วยบอนหากไม่รีบร้อนไปเที่ยวบ้านผาปู่หมื่น ดอยของมูเซอ ไปชมไร่เขา คุณอาจได้ของฝากจากที่นี่กลับบ้านไปด้วย
ที่มา นิตยสาร Trips สุดยอดจุดชมวิวทั่วไทย
วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553
ม่อนครูบาใส
ม่อนครูบาใสเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะแก่การถ่ายภาพของช่างกล้องที่แสวงหาสถานที่บรรยากาศธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติแม่เมย เป็นต้นกำเนิดแม่น้ำเมย และลำน้ำสายเล็กๆอีกหลายสาย หากทวนสายน้ำขี้นสู่เขาสูง ยังจะพบว่ามีหลายดอยที่วิวสวย จนอาจกว่าวได้ว่าเป็นอุทยานฯ ที่มีดอยสวยมากที่สุดของจังหวัดตากก็ว่าได้ แต่ดอยที่สวยโดดเด่นกว่าเพื่อนคือดอยม่อนครูบาใส และม่อนกิ่วลม
สถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานฯนี้ ส่วนใหญ่เป็นจุดชมวิวและน้ำตกส่วนใหญ่มีถนนเข้าถึง สำหรับจุดชมวิวทิวทัศน์มีอยู่หลายแห่ง เริ่มจากด้านหลังที่ทำการอุทยานฯ ชมวิวทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาว มีเส้นทางเดินขึ้นไป และขับรถไปจากอุทยานฯ ไม่ไกลนักถึงจุดชมวิวม่อนกระทิง เนินเขาเตี้ยๆ แต่วิวสวย ชมทะเลหมอกได้อีกแห่ง บนถนนสายเดียวกันนี้ ยังไปถึงจุดชมวิวม่อนครูบาใน ห่างจากม่อนพูนสุดาเพียง 200 เมตร ชมพระอาทิตย์ขี้นก็ได้ ตกก็สวย ส่วนม่อนกิ่วลม นั้นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขี้นที่สวยอีกแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายแม่สลิดหลวง-แม่ระเมิง เห็นทะเลหมอกเบื้องล่าง และเห็นยอดเขาหลายยอดที่อยู่ต่ำกว่า อากาศเย็นสบายตลอดปี เพราะเป็นช่องเขาที่ลมพัดผ่าน เป็นทางเดินลม จนได้รับชื่อเรียกว่าเป็นกิ่วลม คือสถานที่ลมพัดผ่านตลอด
นอกจากจุดชมทิวทัศน์แล้ว ยังมีน้ำตกสวยอย่างน้ำตกแม่ระเมิง น้ำตกแม่สลิดน้อย น้ำตกชาวดอย และที่เด่นไม่แพ้จุดชมวิวเลยคือ ถ้ำแม่อุสุที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุดในประเทศ ชมหินงอก หินย้อย เข้าได้เฉพาะช่วงแล้ง เพราะน้ำไหลเชี่ยวผ่านเข้าถ้ำ
ที่มา นิตยสาร Trips สุดยอดจุดชมวิวทั่วไทย
สถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานฯนี้ ส่วนใหญ่เป็นจุดชมวิวและน้ำตกส่วนใหญ่มีถนนเข้าถึง สำหรับจุดชมวิวทิวทัศน์มีอยู่หลายแห่ง เริ่มจากด้านหลังที่ทำการอุทยานฯ ชมวิวทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาว มีเส้นทางเดินขึ้นไป และขับรถไปจากอุทยานฯ ไม่ไกลนักถึงจุดชมวิวม่อนกระทิง เนินเขาเตี้ยๆ แต่วิวสวย ชมทะเลหมอกได้อีกแห่ง บนถนนสายเดียวกันนี้ ยังไปถึงจุดชมวิวม่อนครูบาใน ห่างจากม่อนพูนสุดาเพียง 200 เมตร ชมพระอาทิตย์ขี้นก็ได้ ตกก็สวย ส่วนม่อนกิ่วลม นั้นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขี้นที่สวยอีกแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายแม่สลิดหลวง-แม่ระเมิง เห็นทะเลหมอกเบื้องล่าง และเห็นยอดเขาหลายยอดที่อยู่ต่ำกว่า อากาศเย็นสบายตลอดปี เพราะเป็นช่องเขาที่ลมพัดผ่าน เป็นทางเดินลม จนได้รับชื่อเรียกว่าเป็นกิ่วลม คือสถานที่ลมพัดผ่านตลอด
นอกจากจุดชมทิวทัศน์แล้ว ยังมีน้ำตกสวยอย่างน้ำตกแม่ระเมิง น้ำตกแม่สลิดน้อย น้ำตกชาวดอย และที่เด่นไม่แพ้จุดชมวิวเลยคือ ถ้ำแม่อุสุที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุดในประเทศ ชมหินงอก หินย้อย เข้าได้เฉพาะช่วงแล้ง เพราะน้ำไหลเชี่ยวผ่านเข้าถ้ำ
ที่มา นิตยสาร Trips สุดยอดจุดชมวิวทั่วไทย
วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553
เว็บไซต์สอนถ่ายภาพเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
การประกวดออกแบบเว็บไซต์ 2009 ( Web Design Contest Award 2009) ที่จัดขี้นโดยความร่วมมือของ 3 มหาวิทยาลัย ใน 3 ประเทศคือ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว มหาวิทยาลัยฮอกไกโดอินฟอร์เมชั่น จากประเทศญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี จากประเทศไทยได้ เสร็จสิ้นไปแล้ว
เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่า 3 เด็กหนุ่มจากประเทศไทยในนามทีม TO Training Camera จากรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรีสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้ โดยเอาชนะทีมที่เข้าร่วมแข่งขันอีก 17 ทีมได้
โดยน้องๆทีม TOA Training Camera มีสมาชิกประกอบด้วย "น้องออฟ" นายภควัต สุวรรณเขตต์ "น้องต้อง" นายภัทรธร ภู่พรายงาม และ "น้องอาร์ท" นายทวีชัย อัศวรังสิตแดง ทั้งหมดเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 โปรแกรมวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย
น้องๆทั้งสามบอกว่า เว็บไซต์ที่ออกแบบคือเว็บไซต์การสอนถ่ายภาพ http://www.sci.rmutt.ac.th/webcontest2009/new%20folder/port_sci.html สร้างโดยใช้ แฟลช ซีเอส 4 ( Flash CS4) ซึ่งผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเรียน เพราะว่าแฟลชสามารถสร้างลูกเล่นได้มากมาย ซึ่งการที่เลือกออกแบบเว็บไซต์การสอนถ่ายภาพ เพราะว่า เคยได้เรียนการถ่ายภาพมาแล้วจึงต้องการจะถ่ายทอดเทคนิรที่ได้สัมผัสมาด้วนตนเอง ได้เคยลงมือปฏิบัติจริงก่อนที่จะออกมาเป็นรูปถ่าย 1 รูป นำเข้ามาไว้ในคอมพิวเตอร์ เพื่อความสะดวกสบายในการเรียนของคนทีสนใจในการถ่ายภาพ เพราะสามารถเข้ามาเรียนได้ทุกเวลา โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือสามารถเรียนผ่านเว็บไซต์ได้เลย
สำหรับจุดเด่นเว็บไซต์ คือการที่มีลูกเล่นหลากหลาย แบ่งเนื้อหาทั้งหมดออกเป็น 5 เรื่อง ประกอบไปด้วย 1 เบสิก ออฟ คาเมร่า (Basic of Camera) 2. ทูลส์ ออฟ คาเมร่า (Tools of Camera) 3. โหมด (Mode) 4. พรินซิเบิล ออฟ คาเมร่า (Principle of Camera) 5. เบสิกคอมโพสิชั่น (Basic Composition) โดยแต่ละเนื้อหาจะเรียงจากเนื้อหาที่ง่ายไปยาก ซึ่งคนที่ไม่มีพื้นฐานด้านการถ่ายภาพมาก่อนก็สามารถที่จะเรียนรู้ได้
การทำงานของทีมจะมีการแบ่งงานกันทำเป็น 3 ส่วน ในส่วนที่เป็นเนื้อหา "น้องออฟ" จะเป็นผู้รับผิดชอบ ในส่วนด้านกราฟฟิก "น้องต้อง" เป็นผู้รับผิดชอบ และในส่วนของการเขียนเว็บ "น้องอาร์ท" เป็นผู้ลงมือทำ ซึ่งก็โชคดีที่ทุกคนในทีมจะมีความถนัดในเรื่องการออกแบบ จึงไม่ปัญหาในการทำงานเท่าไหร่ โดยปัญหาที่เจอคือเรื่องของเวลา เพราะทุกคนต้องเรียน จึงไม่มีเวลาเต็มีในการออกแบบ ส่วนใหญ่จึงอาศัยเวลาหลังเลิกเรียนในการทำ
น้องๆทั้งสาม กล่าวต่อว่า ดีใจมากกับรางวัลที่ได้ในครั้งนี้ เพราะเป็นผลงานชิ้นแรก ซึ่งที่ผ่านมากไม่เคยส่งผลงานเข้าประกวดในเวทีไหนมาก่อน การเข้าแข่งขันในครั้งนี้ก็หวังเพียงประสบการณ์ไม่ได้หวังรางวัลอะไร ซึ่ก็ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการ รวมถึงช่วยให้ได้รู้จักการทำงานเป็นทีม
ทั้งนี้การออกแบบเว็บไซต์มีโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบมากมาย ขี้นอยู่กับความสนใจ ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน ซึ่งบางคนก็ซื้อหนังสือมาอ่านเอง หรือว่าศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆซึ่งเมื่อทั้งสามมีความสนใจในการทำเว็บไซต์ก็อาศัยการศึกษาค้นคว้าตามหนังสือ หรือว่าในอินเทอร์เน็ตและหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็จะขอคำปรึกษาจากอาจารย์ผู้สอนสำหรับใครที่กำลังสนใจจะลองทำเว็บไซต์ด้วยตนเองก็ลองซื้อโปรแกรมมาศึกษาด้วยตนเองได้
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่า 3 เด็กหนุ่มจากประเทศไทยในนามทีม TO Training Camera จากรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรีสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้ โดยเอาชนะทีมที่เข้าร่วมแข่งขันอีก 17 ทีมได้
โดยน้องๆทีม TOA Training Camera มีสมาชิกประกอบด้วย "น้องออฟ" นายภควัต สุวรรณเขตต์ "น้องต้อง" นายภัทรธร ภู่พรายงาม และ "น้องอาร์ท" นายทวีชัย อัศวรังสิตแดง ทั้งหมดเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 โปรแกรมวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย
น้องๆทั้งสามบอกว่า เว็บไซต์ที่ออกแบบคือเว็บไซต์การสอนถ่ายภาพ http://www.sci.rmutt.ac.th/webcontest2009/new%20folder/port_sci.html สร้างโดยใช้ แฟลช ซีเอส 4 ( Flash CS4) ซึ่งผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเรียน เพราะว่าแฟลชสามารถสร้างลูกเล่นได้มากมาย ซึ่งการที่เลือกออกแบบเว็บไซต์การสอนถ่ายภาพ เพราะว่า เคยได้เรียนการถ่ายภาพมาแล้วจึงต้องการจะถ่ายทอดเทคนิรที่ได้สัมผัสมาด้วนตนเอง ได้เคยลงมือปฏิบัติจริงก่อนที่จะออกมาเป็นรูปถ่าย 1 รูป นำเข้ามาไว้ในคอมพิวเตอร์ เพื่อความสะดวกสบายในการเรียนของคนทีสนใจในการถ่ายภาพ เพราะสามารถเข้ามาเรียนได้ทุกเวลา โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือสามารถเรียนผ่านเว็บไซต์ได้เลย
สำหรับจุดเด่นเว็บไซต์ คือการที่มีลูกเล่นหลากหลาย แบ่งเนื้อหาทั้งหมดออกเป็น 5 เรื่อง ประกอบไปด้วย 1 เบสิก ออฟ คาเมร่า (Basic of Camera) 2. ทูลส์ ออฟ คาเมร่า (Tools of Camera) 3. โหมด (Mode) 4. พรินซิเบิล ออฟ คาเมร่า (Principle of Camera) 5. เบสิกคอมโพสิชั่น (Basic Composition) โดยแต่ละเนื้อหาจะเรียงจากเนื้อหาที่ง่ายไปยาก ซึ่งคนที่ไม่มีพื้นฐานด้านการถ่ายภาพมาก่อนก็สามารถที่จะเรียนรู้ได้
การทำงานของทีมจะมีการแบ่งงานกันทำเป็น 3 ส่วน ในส่วนที่เป็นเนื้อหา "น้องออฟ" จะเป็นผู้รับผิดชอบ ในส่วนด้านกราฟฟิก "น้องต้อง" เป็นผู้รับผิดชอบ และในส่วนของการเขียนเว็บ "น้องอาร์ท" เป็นผู้ลงมือทำ ซึ่งก็โชคดีที่ทุกคนในทีมจะมีความถนัดในเรื่องการออกแบบ จึงไม่ปัญหาในการทำงานเท่าไหร่ โดยปัญหาที่เจอคือเรื่องของเวลา เพราะทุกคนต้องเรียน จึงไม่มีเวลาเต็มีในการออกแบบ ส่วนใหญ่จึงอาศัยเวลาหลังเลิกเรียนในการทำ
น้องๆทั้งสาม กล่าวต่อว่า ดีใจมากกับรางวัลที่ได้ในครั้งนี้ เพราะเป็นผลงานชิ้นแรก ซึ่งที่ผ่านมากไม่เคยส่งผลงานเข้าประกวดในเวทีไหนมาก่อน การเข้าแข่งขันในครั้งนี้ก็หวังเพียงประสบการณ์ไม่ได้หวังรางวัลอะไร ซึ่ก็ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการ รวมถึงช่วยให้ได้รู้จักการทำงานเป็นทีม
ทั้งนี้การออกแบบเว็บไซต์มีโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบมากมาย ขี้นอยู่กับความสนใจ ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน ซึ่งบางคนก็ซื้อหนังสือมาอ่านเอง หรือว่าศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆซึ่งเมื่อทั้งสามมีความสนใจในการทำเว็บไซต์ก็อาศัยการศึกษาค้นคว้าตามหนังสือ หรือว่าในอินเทอร์เน็ตและหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็จะขอคำปรึกษาจากอาจารย์ผู้สอนสำหรับใครที่กำลังสนใจจะลองทำเว็บไซต์ด้วยตนเองก็ลองซื้อโปรแกรมมาศึกษาด้วยตนเองได้
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)