วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยวเปรู 2/2

ทุกๆเมืองที่ชาวอินค้าสร้างไว้ถึงอย่างไรก็ต้องมี Temple of the sun วิหารที่ไว้บูชาพระอาทิตย์ ซึ่งจะตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทุกที่จะเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นแสงแดดก็จะสาดส่องตัวเมืองและตัววิหารอยู่ทั้งวันเพื่อจะให้บรรเทาความหนาวเหน็บของหุบเขาก็เป็นได้ ชาวอินคามีความฉลาดในทางสถาปัตยกรรมและเกตรกรรม มนุษย์ส่วนใหญ่อย่างไรก็ตั้งรกรากอยู่ใกล้แหล่งน้ำไวก่อน แต่ที่นี่ไม่ใช่ แม้ภูมิประเทศจะเป็นภูเขา แต่เขามองทะลุไปถึงใต้ดินแล้วเล็งเห็นว่ามีภูเขาอยู่ในที่ชื้นขนาดนี้ ความสมบูรณ์ น้ำบาดาลก็จะยิ่งมีมาก เขานำเอาข้อเสียปรียบทางด้านภูมิศาสตร์มาเป็นข้อได้เปรียบ ตั้งเมือซ่อนในหูบเขา อยู่หางไกลจากศัตรู ทำการเกษตรขั้นบันได เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหารและเป็นพาหนะ

เมืองปูโนเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ควรค่าแก่การดั้นด้นมา เมืองปูโนตั้งอยู่ติดทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca) บนความสูง 3,800 กว่าเมตร ทะเลสาบแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดในโลกและใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ใหญ่เสียจนกินพื้นที่ไปถึงประเทศโบลิเวียเลยทีเดีย แต่ความสูงหรือความใหญ่ยังเป็นประเด็นรอง ที่นี่เมีเกาะกลางทะเลสาบแห่งหนึ่งที่ไม่ธรรมดา

เมืองปูโนแห่งนี้ตั้งอยู่ข้างทะเลสาบ อยู่มุมไหนของเมืองนี้ก็จะเห็นวิวทะเลสาบกว้างไกล น่ารักดี ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งคือเป็นเมืองแห่งการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง เพราะมีงานรื่นเริงแทบจะทุกสัปดาห์ ชาวบ้านแต่งตัวออกมาเต้นรำกันในแบบพื้นบ้าน และท่าเต้นรำของพวกเขาก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ใดๆ ในประเทศเปรู

ที่มา นิตยสาร Marie Claire

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยวเปรู 1/2

จากเมืองชินเชรอส ขับรถเรื่อยๆเลียบแม่น้ำอูรูแบมบา ลึกเข้ามาในอีกหุบเขาหนึ่ง ข้างทางนอกจากแม่น้ำยังเห็นรางรถไฟและสถานีรถไฟของหุบเขาอูรูแบมบาที่เป็นเส้นเดียวกนกับที่จะขี้นไปที่มาชูปิชู เห็นเส้นทางรถไฟนี้แล้วก็นึกเสียดาย น่าจะเป็นทางรถไฟที่วิวข้างทางต้องสวยมากๆ ยามวิ่งเลาะไปตามหุบเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เรากำลังเข้ามาในย่านเล็กๆที่ล้อมรอบด้วยภูเขาทุกด้าน ต้องบอกว่าแทบจะซ่อนตัวจากโลกภายนอก ที่นี่คือเมืองโบราณ 'โอยันไตตามโบ' บริเวณลานจอดรถก่อนเข้าโบราณสถานเป็นตลาดขายของที่ระลึกเล็กๆ มองเผินๆดูธรรมดา แต่พอเงยหน้าขี้นไปจะเห็นว่าด้วยมุมของฉากหลังที่เป็นภูเขาสีเขยวโดยที่มีเมฆคลอเคลียอยู่ ยิ่งทำให้ที่ตั้งของตลาดแห่งนี้ดูพิเศษขี้นมาทันที มองไปอีกด้านหนี่ง ที่ตั้งตระหง่านคือซากปรักหักพังของเมืองโบราณ มีลักษณะเป็นขั้นบันไดขี้นไป คือกินภูเขาด้านนี้ไปทั้งลูก อากาศกำลังดี เย็นแต่มีแดดออก ค่อยโอเคหน่อยที่จะต้องเดินขี้นไปขนถึงยอด อยู่ข้างล่างมองขี้นมาก็ดูยิ่งใหญ่ประทับใจอยู่แล้ว ยิ่งมาข้างบนยิ่งอลังการ ชาวอินคาเก่งเรื่องหาโลเกชั่นจริงๆครับ นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สวยงามมากๆ อยู่บนยอดเขานั่งอยู่บนซากปรักหักพังของเมืองเก่า มองลงไปก็เห็นบ้านเรือนที่รายล้อมด้วยภูเขาตระหง่าน ยิ่งพื้นที่แถวนี้สูงเกือบ 4,000 เมตร เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่จะมีเมฆหมอกคลอเคลียตามยอดเขาต่างๆที่โอบล้อมเมืองอยู่อย่างมิดชิด

ที่มา นิตยสาร Marie Claire