วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

เที่ยวเมืองมรดกโลกในอิตาลี

เมืองอัลแบโรเบลโล เป็นเมืองโบราณเล็กๆที่ได้ขี้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในประเทศอิตาลีที่มีทิศทัศน์น่าท่องเที่ยว

ใจกลางเมือง มีจตุรัสเล็กๆน่ารักสองแห่งเชื่อมต่อไปยังจตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองคือ เปียซ่า เคส โพโพโล (Paizza del Popolo) แถวนี้มีร้านเล็กๆเรียงรายให้เดินเล่นบ้าง คาเฟ่บาร์กาแฟก็เยอะ ซึ่งต้องระวังให้ดี เพราะบางคาเฟ่เปิดมาขายทัวริสต์ กาแฟ ขนม ไม่อร่อยเลย แพงด้วย ควรเล็กคาเฟ่/บาร์กาแฟที่ชาวบ้านในเมืองไปชุมนุมกันแยะๆ จะเด็ดกว่าอย่าง Bar del Corso ขนม ไอศครีมโฮมเมดอร่อยทุกสิ่งอย่าง ชาวเมืองเดินเข้ามาในบาร์นี้ไม่ขาดสายทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะยามเย็นสี่ห้าโมงผู้คนจะคึกคักมากมาย

ขณะที่ช่วงบ่ายโมงถึงห้าโมงเย็น เมืองเงียงกริบมากถึงมากที่สุด ทุกร้านปิดเซียสตานอนกลางวันกันจริงจัง อันนี้อึ้งไปเลยเพราะเมืองใหญ่ๆอย่างโรม ฟลอเรนซ์ มิลานเขาไม่ปิดพักเที่ยงยาวนานจริงจังขนาดนี้ โชคดีร้านกาแฟบางแห่งไม่ปิด ยังพอมีที่ให้นั่งพักยามเหนื่อยร้อนจากการเดินเล่นได้บ้าง

นอกจากนี้ ยังมีสถานที่เด็ดอีกแห่งที่ไปแล้วเลิฟมาก ไม่ปิดเซียสตาด้วยคือ Truilo Sovrano ตั้งอยู่ทางด้านเหนือหลังโบสถ์ใหญ่ของเมือง ทรูโล โซวราโนคือบ้านกรวยพิเศษสุด เป็นหลังเดียวในเมืองที่สร้างแบบสองชั้นจากหลักฐานก่อสร้างขี้นราวศตวรรษที่ 17 โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล เป็นของตระกูลพระที่มั่งคั่ง ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆซึ่งจิ๋วแต่แจ๋วมีอะไรให้เดินเพลินชมนานเลย

ด้านในบ้านทรูโลสองชั้นนี้ เราจะได้เห็นไลฟ์สไตล์ของชาวเมืองเมื่อหลายร้อยปีก่อนผ่านทางการจัดวางห้องหับต่างๆแปลนห้อง การใช้พื้นที่น่าสนใจดี แปลกด้วยตรงที่ห้องนอนอยู่ชั้นล่างหน้าบ้าน ห้องนั่งเล่นอยู่กลางบ้าน ครัวอยู่ด้านหลัง ในครัวมีโต๊ะทำขนมปังตัวใหญ่ใกล้หน้าต่างซึ่งมองออกไปเห็นสวนหลังบ้าน มีซุ้มดอกมะลิวัลย์ออกดอกพราวขาวน่าเอ็นดู



ที่มา นิตยสาร Woman & Home

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทรูลี่ ทรูโล่ เมืองแฟนตาซี

จากบารี (Bari) เมืองใหญ่สำคัญของปูเลีย นั่งรถไฟมาไม่ไกลลงใต้ไปอีกหน่อยก็ถึงอัลแบโรเบลโล เมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเขาสองลูกและที่ผุดขี้นมาในทิวเขา มองไกลๆ จะเหมือนรวงผึ้งหินนับพันๆ รวงเรียงรายอยู่ หมู่กรวยนั้นหรือคืออาคารพักอาศัยไม่ธรรมดามีชื่ว่าทรูลี่ (Truli) หรือ ทรูโล (Trullo) ซึ่งทำให้อัลแบโรเบลโลเป็นที่รู้จักกันดีในอีกชื่อหนึ่งว่า The City of Trulli

ทรูลี่ ทรูโล่ คืออะไร บ้านหินกรวย หรือบ้านหินรวงผึ้งทรงเหมือนโคนไอติมคว่ำนี้มีรากคำมาจากภาษากรีก แปลความหมายได้ว่า โดม บนเบาะแสบ้านทรงกรวยแบบนี้ในกรีซและซีเรียบ้าง ในอิตาลีมีแต่แถบปูเลียนี้เท่านั้น กระจายให้เห็นอยู่ตามทุ่งนาในเมืองต่างๆ แต่ที่หาพบได้เพียบที่สุด พันกว่ากรวย ก็ต้องเมืองอัลแบโรเบลโลนี่แหละ สร้างความฮือฮาให้ผู้ที่ได้พบเห็นล้วนเอ่ยปากว่าเมืองอะไรเนี่ย ยังกับฉากในหนังแฟนตาซี

จุดหนึ่งซึ่งทำให้ยิ่งดูแฟนตาซีเข้าไปใหญ่ อยู่ที่หัวจ๊ก (Pinnacle) ที่ครอบอยู่บนยอดหนังคาโดมด้วย ทำเป็นรูปทรงต่างๆ ง่ามแปลกตาแลดูแล้วชวนจินตนาการถึงมนุษย์ต่างดาวยังไงไม่รู้ ชาวบ้านยังนิยมนำปูนขาวเขียนลายทำเครื่องหมายไว้บนหลังคาด้วย ส่วนใหญ่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาและจักรราศี (อันนี้ก็ดูต่างดาวดีเช่นกัน) ซึ่งตามความเชื่อของชาวอัลแบโรเบลโล สัญลักษณ์เหล่านี้ทำหน้าที่ช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายและปีศาจไม่ให้มากล้ำกรายในครัวเรือน



ที่มา นิตยสาร Woman & Home

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

การถ่ายภาพเบื้องต้น

ขั้นตอนการใช้กล้อง

1. เปิดปุ่ม Power เพื่อให้กล้องเริ่มทำงาน ถือกล้องให้มั่นคง ตั้งค่าความไวแสง หรือ iso ให้เหมาะกับสภาพแสง เช่น iso100 ใช้กับสถานที่ที่มีแสงมากพอควร ถ้ามีแสงน้อยให้ใช้ iso สูง เช่น iso400

2. ปรับ mode ไปที่ AV จะเหมาะกับการถ่ายภาพบุคคล เลือกขนาดรูรับแสง หากใช้ขนาดรูรับแสงที่มีค่า F ต่ำ เช่น F1.4 ภาพจะชัดตื้น คือหน้าชัด หลังเบลอ หากเลือกค่า F สูง เช่น F22 รูรับแสงจะแคบ ภาพจะชัดลึก คือคมชัดทั้งภาพระยะหน้าถึงระยะหลัง

3. เลือกมุมภาพ และจัดองค์ประกอบของภาพ โฟกัสภาพให้ชัดที่สุด โดยการกดปุ่นชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง เมื่อองค์ประกอบภาพดีแล้ว ให้กดชัตเตอร์อย่างนิ่มนวล มือใหม่ควรฝึกเรื่องความชัดก่อน ซึ่งต้องโฟกัส ไม่สั่นไหว

หลักสำคัญของการถ่ายภาพ

รู้จุดประสงค์ในการถ่ายภาพว่าจะถ่ายไปทำไม เราต้องการเล่าเรื่องราวอะไร และทำอย่างไรเราจะได้ภาพที่มีบรรยากาศถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี โดยใช้องค์ประกอบทางศิลปะ เช่น เส้น สี แสง และจุดสนใจ มาช่วยสนับสนุน

เรื่องราวของภาพ

การถ่ายภาพที่ดี เริ่มต้นที่การคิด ก่อนถ่ายภาพเราต้องคิดก่อนว่า เราต้องการบอกเล่าเรื่องราวอะไร เช่น วิถีชีวิตของผู้คน ประเพณีต่างๆ ต้องการจะสื่อแง่มุมใด ภาพต้องสื่อความหมายออกมาได้

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

โรงแรมปารีสสุดหรู

Springtime? It has to be Paris ใครๆก็ฝันถึงโรงแรมปารีสเชียงสุดหรู ลองพักที่โรงแรมหรูโบราณก่อนยุคปฏิวัติ พร้อมอาหารเช้า ที่ Bonne Nuit Paris (bonne-nuit-paris.com) หรือหากชื่นชอบโรงแรมไซส์เล็กมีสไตล์อย่างที่เห็นในหนัง Amilie ลองที่ Hotel Le Relais Montmartre (www.hotel-relais-montmartre.com/fr) ลองหาไอเดียแปลกใหม่อื่นๆได้ในหนังสือ Special Places to Stay: Paris Hotels จาก Asia Books Flower Power in Madeira นอกจากจะเลื่องชื่อในด้านไวน์ เมือง Madeira ในโปรตุเกสยังเต็มไปด้วยความงดงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งไปทั่วเมืองในงานเทศกาลดอกไม้ประจำปี Madeira Flower Fetival (5-8 พฤษภาคม) และพักที่ Quinta das Vistas โรงแรมในคราบประสาทหลังงามหรู ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา และทะเลสาบพร้อมบริการในระดับ 5 ดาว ที่มา นิตยสาร Woman & Home

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยวเปรู 2/2

ทุกๆเมืองที่ชาวอินค้าสร้างไว้ถึงอย่างไรก็ต้องมี Temple of the sun วิหารที่ไว้บูชาพระอาทิตย์ ซึ่งจะตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทุกที่จะเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นแสงแดดก็จะสาดส่องตัวเมืองและตัววิหารอยู่ทั้งวันเพื่อจะให้บรรเทาความหนาวเหน็บของหุบเขาก็เป็นได้ ชาวอินคามีความฉลาดในทางสถาปัตยกรรมและเกตรกรรม มนุษย์ส่วนใหญ่อย่างไรก็ตั้งรกรากอยู่ใกล้แหล่งน้ำไวก่อน แต่ที่นี่ไม่ใช่ แม้ภูมิประเทศจะเป็นภูเขา แต่เขามองทะลุไปถึงใต้ดินแล้วเล็งเห็นว่ามีภูเขาอยู่ในที่ชื้นขนาดนี้ ความสมบูรณ์ น้ำบาดาลก็จะยิ่งมีมาก เขานำเอาข้อเสียปรียบทางด้านภูมิศาสตร์มาเป็นข้อได้เปรียบ ตั้งเมือซ่อนในหูบเขา อยู่หางไกลจากศัตรู ทำการเกษตรขั้นบันได เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหารและเป็นพาหนะ

เมืองปูโนเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ควรค่าแก่การดั้นด้นมา เมืองปูโนตั้งอยู่ติดทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca) บนความสูง 3,800 กว่าเมตร ทะเลสาบแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดในโลกและใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ใหญ่เสียจนกินพื้นที่ไปถึงประเทศโบลิเวียเลยทีเดีย แต่ความสูงหรือความใหญ่ยังเป็นประเด็นรอง ที่นี่เมีเกาะกลางทะเลสาบแห่งหนึ่งที่ไม่ธรรมดา

เมืองปูโนแห่งนี้ตั้งอยู่ข้างทะเลสาบ อยู่มุมไหนของเมืองนี้ก็จะเห็นวิวทะเลสาบกว้างไกล น่ารักดี ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งคือเป็นเมืองแห่งการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง เพราะมีงานรื่นเริงแทบจะทุกสัปดาห์ ชาวบ้านแต่งตัวออกมาเต้นรำกันในแบบพื้นบ้าน และท่าเต้นรำของพวกเขาก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ใดๆ ในประเทศเปรู

ที่มา นิตยสาร Marie Claire

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยวเปรู 1/2

จากเมืองชินเชรอส ขับรถเรื่อยๆเลียบแม่น้ำอูรูแบมบา ลึกเข้ามาในอีกหุบเขาหนึ่ง ข้างทางนอกจากแม่น้ำยังเห็นรางรถไฟและสถานีรถไฟของหุบเขาอูรูแบมบาที่เป็นเส้นเดียวกนกับที่จะขี้นไปที่มาชูปิชู เห็นเส้นทางรถไฟนี้แล้วก็นึกเสียดาย น่าจะเป็นทางรถไฟที่วิวข้างทางต้องสวยมากๆ ยามวิ่งเลาะไปตามหุบเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เรากำลังเข้ามาในย่านเล็กๆที่ล้อมรอบด้วยภูเขาทุกด้าน ต้องบอกว่าแทบจะซ่อนตัวจากโลกภายนอก ที่นี่คือเมืองโบราณ 'โอยันไตตามโบ' บริเวณลานจอดรถก่อนเข้าโบราณสถานเป็นตลาดขายของที่ระลึกเล็กๆ มองเผินๆดูธรรมดา แต่พอเงยหน้าขี้นไปจะเห็นว่าด้วยมุมของฉากหลังที่เป็นภูเขาสีเขยวโดยที่มีเมฆคลอเคลียอยู่ ยิ่งทำให้ที่ตั้งของตลาดแห่งนี้ดูพิเศษขี้นมาทันที มองไปอีกด้านหนี่ง ที่ตั้งตระหง่านคือซากปรักหักพังของเมืองโบราณ มีลักษณะเป็นขั้นบันไดขี้นไป คือกินภูเขาด้านนี้ไปทั้งลูก อากาศกำลังดี เย็นแต่มีแดดออก ค่อยโอเคหน่อยที่จะต้องเดินขี้นไปขนถึงยอด อยู่ข้างล่างมองขี้นมาก็ดูยิ่งใหญ่ประทับใจอยู่แล้ว ยิ่งมาข้างบนยิ่งอลังการ ชาวอินคาเก่งเรื่องหาโลเกชั่นจริงๆครับ นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สวยงามมากๆ อยู่บนยอดเขานั่งอยู่บนซากปรักหักพังของเมืองเก่า มองลงไปก็เห็นบ้านเรือนที่รายล้อมด้วยภูเขาตระหง่าน ยิ่งพื้นที่แถวนี้สูงเกือบ 4,000 เมตร เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่จะมีเมฆหมอกคลอเคลียตามยอดเขาต่างๆที่โอบล้อมเมืองอยู่อย่างมิดชิด

ที่มา นิตยสาร Marie Claire

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยวดูไบ

นับจากโรงแรม 7 ดาว Burj Al Arab ถูกสร้างขี้นตามลักษณะเรือสำเภาท้องถิ่นที่เรียกว่า เดาว์ (Dhow) แล้วเสร็จ มาจนถึงโครงการ The Palm หมู่เกาะรูปต้นปาล์ม ที่สร้างความตื่นตะลึงและการตอบรับจากเศรษฐีน้ำมัน และดาราฮอลลีวู้ดที่เข้าจับจองที่พัก บรรยากาศพิเศษแบบเกาะส่วนตัวจนเต็มในพริบตา ยังมีตึกสูงทำลายสถิติโลก Burj Dubi ที่สร้างเสร็จเพียงไม่นานก็กำลังจะถูกโค่นแชมป์ด้วยเบิร์จ อัล อาลัม (Burj Al Alam) หรือ The World Tower เสียแล้ว ติดตามมาด้วยอภิมหาโครงการ Dubiland ซึ่งพัฒนาขี้นบนพื้นที่ทะเลทรายนอกเมืองให้กลายเป็นอาณาจักรแห่งความบันเทิงบนเนื้อที่รวม 3 ล้านตรารางฟุต เล่าไว้ให้น้ำลายสอเล่นๆว่าหนึ่งในโครงการของดูไบแลนด์ คือสวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์เวิลด์ที่จะสร้างให้ใหญ่กว่าที่ออร์ลันโดถึง 3 เท่า และที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอย่างเข้มข้น คือโครงการ The World หรือหมู่เกาะรูปโลก ที่มูลค่าเกาะแต่ละเกาะไม่ต่ำกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่นั่นแหล่ะนะ โลกทั้งใบก็อาจถูกจับจองในพริบตาอีกเช่นกัน และนั่นยิ่งย้ำให้เชื่อสนิทใจว่า ดูไบสร้างโลกได้จริงๆ


จากถนนสายหลัก Sheik Sayed ที่ทอดยาวจากสนามบินท่ามกลางแสงแดดร้อนกว่า 40 องศาเซลเซียส แม้จะไม่ใช่ช่วง high season ของประเทศแถบตะวันออกกลางที่เขาว่าเหมาะเที่ยวกันแถวๆปลายปีไปจนถึงต้นปี แต่ตราบใดที่ไม่ใช่ช่วงหน้าร้อนเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ก็นับว่ายังพอรับได้ แล้วภาพแรกที่ผ่านมาทักทาย คือรางรถไฟลอยฟ้า หรือดูไบเมโทรที่มีฐาน (สถานี) คล้ายรูปยานอวกาศ สายแรก (สีแดง) เปิดให้บริการไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เสียดายว่าเรามาถึงก่อนหน้า เลยอดใช้บริการ สายสีแดงนี้วิ่งเชื่อมสถานที่หลักๆใจกลางเมือง โดยเฉพาะสถานี Mall of Emirates ที่ติดอันดับมีผู้ขี้นลงประจำวัสูงสุด ส่วนสายอื่นๆนั้นจะทยอยเปิดใช้ในราวกลางปีหน้า นั่นรวมถึงสายที่ให้บริการสู่สนามบินด้วย

ทื่มา นิตยสาร เที่ยวรอบโลก